ในบรรดาหุ้นของบริษัทยุโรปที่ใหญ่ที่สุดที่จดทะเบียนใน EURONEXT ได้แก่ L'oreal, Renault SA, Unilever NV, ASML Holding MV และอื่นๆ
ในขณะที่หุ้นอเมริกันมักจะแสดงความเชื่อมั่นขาขึ้นในระยะยาวที่มั่นคง แต่ก็ไม่สามารถพูดได้เช่นเดียวกันกับหุ้นยุโรปที่จดทะเบียนใน EURONEXT ในการตัดสินใจซื้อขาย จำเป็นต้องศึกษาอุตสาหกรรมของบริษัทและงบการเงินของบริษัท
ลูกค้า LiteFinance สามารถใช้โอกาสในการซื้อขายมาร์จิ้นด้วยเครื่องมือ CFD และทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง หากราคาหุ้นลดลง คุณสามารถเปิดตำแหน่งขายและสร้างรายได้จากส่วนต่างของราคาระหว่างมูลค่าเปิดและมูลค่าปิดของการซื้อขายได้ ในทางกลับกัน หากราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุณก็จะสามารถทำกำไรได้โดยการเปิดสถานะซื้อ นอกจากนี้ LiteFinance ยังให้ลูกค้าสามารถเสนอมาร์จิ้นได้เพียง 2% ของมูลค่าของหนึ่งหุ้นเมื่อเปิดการเทรดซื้อหรือเทรดขาย
มาดูตัวอย่างการเทรดซื้อใน CFD EURONEXT สำหรับ 300 หุ้นของ L'oreal (#LRLCY) ที่ 398.05 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น จำนวนเงินในบัญชีของนักเทรดที่ต้องใช้ในการเปิดสัญญาดังกล่าวจะไม่ใช่ราคาเต็มของหุ้น 119415 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เป็นเพียงมาร์จิ้น 2% ซึ่งจะเท่ากับ 2388.3 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากนั้นไม่นาน ราคาหุ้นอาจเพิ่มขึ้นเป็น 408.05 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากนั้นสัญญาจะปิดด้วยกำไรที่ (398.05 + 10 - 398.05) * 300 = 3000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
EURONEXT คือตลาดหลักทรัพย์ทั่วยุโรปที่มีการซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์ กลุ่มบริษัท EURONEXT ก่อตั้งขึ้นในปี 2543 อันเป็นผลมาจากการควบรวมกิจการของตลาดหลักทรัพย์อัมสเตอร์ดัม ปารีส และบรัสเซลส์ ต่อมา EURONEXT ได้เข้าซื้อกิจการตลาดหลักทรัพย์ของไอร์แลนด์ อิตาลี และโปรตุเกส ตลอดจนตลาดหลักทรัพย์ออสโล ตลาดหลักทรัพย์คำนวณดัชนีหุ้นยุโรปเช่น CAC 40, BEL 20, AEX, FTSE MIB และอื่นๆ ในบรรดาเครื่องมือการซื้อขายอื่นๆ ETF พันธบัตร ใบสำคัญแสดงสิทธิ และผลิตภัณฑ์ที่มีโครงสร้างมีการซื้อขายบน EURONEXT
EURONEXT เป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุด 5 อันดับแรกของโลกและเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด
เข้าถึงตราสารการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ EURONEXT ผ่าน LiteFinance และค้นพบประโยชน์ของการซื้อขายมาร์จิ้นในหุ้น